Lifestyle

สภากาแฟ สุดคลาสสิค

ลิ้มรสชาติ สัมผัสวิถีชุมชน


กลิ่นหอมๆ ลอยมาของกาแฟ เหมือนเป็นพลังให้กับเช้าวันใหม่ ที่หลายคนเร่งรีบออกไปทำงาน ออกไปทำธุระต่างๆ หรือบางคนก็อาจจะรอเวลามานั่งเมาท์มอยกันในสถานที่เดิมๆ กับเรื่องเดิมๆ ในบรรยากาศเดิม แต่ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข เมื่อได้ออกมาพบปะพูดคุยกัน Issara Life Ep. นี้ขอพาท่านผู้อ่านมาเยือนสภากาแฟ สถานที่ที่ยังคงความคลาสสิคในกรุงเทพฯ กันค่ะ

มาที่ร้านแรก ออนล๊อกหยุ่น ร้านกาแฟสุดคลาสสิค ตั้งอยู่ในย่านเจริญกรุง ที่รวมเมนูอาหารเช้า ขนมปัง ชา กาแฟ มาพร้อมเสริฟกันแต่เช้าตั้งแต่เวลา 06.00-14.00 น. บรรยากาศดูมีความโบราณ แบ่งโซนนั่งเป็น 2 ชั้น มีเมนูอาหารให้เลือกทานมากมาย อาทิ เมนู 2 eggs และ toppings ให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น กุนเชียง ไส้กรอก เบคอน มีความหอม ละมุน, เมนู Signature Frence Toast, เมนู Steamed Bread with Kaya เมนู Milo Toast เมนู Toast with Butter นอกจากนี้ยังมีเมนูเครื่องดื่มไม่ว่าจะเป็นชา โอเลี้ยง กาแฟ อร่อยๆ มากมาย บอกเลยว่าร้านนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะแต่ละวันต้องต่อคิวกันยาวเลยทีเดียว

นั่งรถตุ๊ก ตุ๊ก ชิลๆ ต่อมาอีกนิดที่ ร้านโกปี๊ เฮี้ยะไถ่กี่ ณ เสาชิงช้า เป็นอีกหนึ่งร้านที่ไม่ควรพลาด เพราะร้านนี้เขาเสริฟความอร่อยมานานแล้วกว่า 60 ปี เปิดบริการตั้งแต่ 07.00 - 20.00 น.ต้องบอกว่าเป็นร้านที่เก่าแก่มาก ที่นี่มีเมนูอาหารทั้งอาหารเช้า ชา กาแฟ ในบรรยากาศที่ให้ฟีลคลาสสิกของร้านกาแฟสมัยก่อน เสริมด้วยความมีเสน่ห์กับโต๊ะ เก้าอี้ แบบโบราณ ที่ให้บรรยากาศสภากาแฟในอดีตมากๆ โดยเมนูที่ไม่ควรพลาด คือ ไข่กระทะ ซึ่งในสมัยก่อนหาทานได้ยากมาก และร้านโกปี๊ เฮี้ยะไก่ ถือว่าเป็นร้านแรกๆ ที่มีการนำเมนูไข่กระทะเข้ามา ส่วนการบริการทางร้านจะให้ลูกค้าบริการตัวเอง โดยจะมีเมนูนำมาให้เลือกสั่ง และรอเรียกรับอาหารที่หน้าเคาน์เตอร์

ขยับจากเสาชิงช้าถัดมาอีกนิดเข้าเส้นเยาวราชยังมีร้านกาแฟโบราณสุดคลาสสิคอีกมากมาย
ซึ่งร้านต่อไปเป็น ร้านเอ็กเต็งผู่กี่ ตั้งอยู่บนถนนพาดสาย แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีมนต์เสน่ห์ที่อยู่คู่เยาวราชมาอย่างยาวนาน ที่นี่เป็นร้านกาแฟสไตล์จีน ที่สืบทอดกิจการรุ่นสู่รุ่นมากว่า 100 ปี แม้วันเวลาจะผ่านไปแต่ที่ร้านนี้ก็ยังคงความคลาสสิกทำให้หวนคิดถึงสมัยเป็นสภากาแฟยามเช้า สำหรับเครื่องดื่มเมนูเด่นของที่ร้านขอยกให้ “กาแฟโบราณเย็น” เป็นสไตล์ไทยโบราณที่มีความขมเข้มข้น หอมกลิ่นคั่วไหม้ ได้รสชาติของนมและความหวานมาชูจุดเด่นมีความกลมกล่อมดีงาม ต่อด้วย “โอเลี้ยง” กาแฟดำไม่ใส่นมที่รสชาติขมเข้มลึกชื่นใจ และอีกเมนูที่ต้องลิ้มลอง “ชานมซีลอนร้อน” ที่ใช้ชาซีลอนจากประเทศศรีลังกา มีความเข้มข้นและหวานนมข้นเล็กน้อย นอกจากนี้เมนู ของกินเล่นที่ห้ามพลาดคือ “ขนมปังนึ่งสังขยาไข่” ซึ่งเป็นสูตรโบราณ จุดเด่นสังขยาคือใส่ไข่กับกะทิ ไม่ใส่แป้งและวัตถุกันเสีย รสชาติหวานมันหอมละมุนมีรสสัมผัสเนื้อไข่ละเอียดนุ่มนิดๆ ส่วนท่านใดที่ยังไม่อิ่มที่นี่ยังมีเมนูขนมจีบ ให้เลือก หมู กุ้ง และปู เนื้อแน่นไร้แป้ง นึ่งสดเสิร์ฟในเข่งแบบโบราณ ให้ได้กินเล่นๆ กันอีกด้วย เปิดบริการทุกวัน 04.00 - 20.00 น.

เดินถัดไปอีกไม่กี่เมตรเรามาปิดท้ายกันกับสภากาแฟที่แท้ทรูกับร้านกาแฟมิตรสัมพันธ์ ที่ตั้งของร้านนี้อยู่ในซอยเล็กๆบนถนนพาดสาย ตัวร้านเป็นรถเข็นแบบ street food ของแท้ มีโต๊ะ-เก้าอี้แบบพับเก็บได้ตั้งให้นั่งจิบเครื่องดื่มทั้งร้อนและเย็นกัน แม้จะเข้าสู่ช่วงบ่ายของวันแต่บรรยากาศภายในร้านก็ยังคงเต็มไปด้วยผู้คนที่เข้ามานั่งพูดคุยกันอย่างคึกคัก สร้างสีสันให้กับถนนนี้เป็นอย่างดี เสน่ห์ของร้านคงกลิ่นไอเมนูเครื่องดื่มสูตรโบราณ ทั้งกาแฟสไตล์โบราณ โอยั๊วะ โอเลี้ยง โอวัลติน โกโก้ ยกล้อ หน่อเข้าโอว หน่อเข้าหนี จ่ำบ๊ะ ชาต่างๆ และไม่ลืมมีไข่ลวกให้สั่งด้วยตามสไตล์สภากาแฟแบบจีนๆ โดยร้านเปิดให้บริการ 05.00 - 18.00 น.

สำหรับคอกาแฟ ที่ชื่นชอบบรรยากาศของสภากาแฟ และกลินไอมนต์เสน่ห์ของร้านที่คงความคลาสสิค ต้องห้ามพลาดกับทั้ง 4 ร้าน ที่ Issara Life นำมาฝากให้กับท่านผู้อ่านได้ตามรอยไปชิมรสชาติกัน ซึ่งรับรองว่านอกจากความอร่อยที่ลงตัวจากสูตรการทำของแต่ละร้านแล้ว เรายังจะได้ซึมซับกับวิถีชีวิตของชุมชนในย่านนี้อีกด้วย