หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวต้องชะงัก และมีการปรับตัว แม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นดูคล้ายจะส่อแววให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวสะดุดลงไป แต่ในภาวะวิกฤตินี้ก็สามารถสร้างเทรนด์การท่องเที่ยวแนวใหม่และเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทยได้อย่างน่าหลงใหลเลยทีเดียว

Issara Life EP. นี้ มีโอกาสได้พูดคุยกับสาวสวยนักธุรกิจรุ่นใหม่อย่าง คุณธมนรัชต์ สิริภูบาล หรือคุณชาม ผู้บริหาร Bangkok Bustaurant กับแนวความคิดในการทำธุรกิจภัตตาคารเคลื่อนที่ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ท่องเที่ยว Sightseeing แนวใหม่ ให้บริการพร้อมอาหารเลิศรสบนรถโค้ชพิเศษ 2 ชั้น ที่ชั้นบนถูกดัดแปลงเป็นร้านอาหารด้วยกระจกรอบคันที่กว้างพิเศษ ทำให้ผู้เดินทางสามารถเห็นวิวทิวทัศน์แบบ 360 องศา ผ่านแลนด์มาร์กสำคัญกว่า 40 สถานที่ทั่วกรุงเทพฯ คงคอนเซ็ปต์ความสะดวกสบาย ไม่ร้อน ไม่เหนื่อย แถมยังได้ดื่มด่ำไปกับอาหารไทยรสเลิศจากเชฟระดับโรงแรม รวมถึงวิถีชุมชนรอบเกาะรัตนโกสินทร์กันอีกด้วย

โดยแรงบันดาลใจในการทำ Bangkok Bustaurant นั้น คุณชามได้เล่าให้ Issara Life ฟังว่าเมื่อ 4-5 ก่อนได้มีโอกาสเดินทางไปต่างประเทศและได้เห็นรูปแบบธุรกิจรถอาหารลักษณะนี้ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส ทำให้เกิดความรู้สึกว่ามันสะดวกสบาย และประหยัดเวลาในการท่องเที่ยวสำหรับคนที่เป็นนักท่องเที่ยวแบบเรา ตอนนั้นกลับมาเมืองไทยได้ศึกษาและดูว่าในเมืองไทยตลาดการทำธุรกิจลักษณะนี้มีบ้างหรือยัง ซึ่งที่ประเทศไทยบ้านเราตอนนั้นยังไม่มีการทำมาก่อน

“ มันแปลกใหม่และให้ความรู้สึกที่แตกต่าง การที่เราได้นั่งรถลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอย ชมวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มองว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ได้เห็นวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ที่เราไม่ได้เห็นแค่ทัศนียภาพ แต่เราจะได้เห็นว่าเขากำลังทำอะไร แต่ละที่ที่ผ่านก็เห็นวัฒนธรรมต่างออกไป มันเหมือนการท่องเที่ยวที่มีชีวิต อีกทั้งมองว่าประเทศไทยยังเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยวในสายตาต่างชาติ เพราะเรามีทั้งโบราณสถานที่สวยงาม อาหารไทยที่อร่อยขึ้นชื่อไม้แพ้ชาติใดในโลกและเรายังมีวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ จึงอยากให้นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนไทยหรือต่างชาติได้มาสัมผัสเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ได้มาเห็นคุณค่าในแบบที่เราเห็น แถมยังตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่มขนาดเล็กลง เข้ากับเทรนด์การท่องเที่ยวในปัจจุบัน ที่ต้องการความสะดวกสบาย เป็นส่วนตัวและความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้การเดินทางมาท่องเที่ยวในลักษณะของกรุ๊ปครอบครัวที่มีผู้สูงวัยและเด็กเล็กก็มีมากขึ้นในปัจจุบัน ถ้าเรามีธุรกิจลักษณะแบบนี้ก็จะช่วยให้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกในการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ช่วยประหยัดเวลา ที่สำคัญช่วยเอื้ออำนวยความสะดวกในการท่องเที่ยวให้คนทุกวัย ทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดี อีกจุดเด่นที่ตอบโจทย์ทุกคนเลยคือไม่ว่าจะเจอกับสภาพอากาศใด ทั้งร้อน หนาว ฝน มี PM 2.5 หรือ Covid-19 ก็ยังสามารถเที่ยวไปกับ Bangkok Bustaurant ได้อย่างปลอดภัย สบายใจ”

สำหรับการให้บริการ และจุดเด่นของ Bangkok Bustaurant ต้องบอกว่าเราให้ความสำคัญกับมาตรฐานความสะอาดปลอดภัย มีเชฟรังสรรค์เมนูอาหารเป็นของเรา มีการแบ่งโซนภายในรถอย่างชัดเจน สำหรับทำเป็นห้องประกอบอาหาร ซึ่งจะมีเชฟคอยคุมทุกเมนู รักษาคุณภาพอาหารให้อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมพร้อมเสิร์ฟให้กับลูกค้าได้ลิ้มลองรสชาติเฉพาะสูตรจากฝีมือเชฟ การให้บริการในปัจจุบันรองรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 24 ท่านต่อรอบ โดยภายในรถจะมีทั้งหมด 8 โต๊ะเท่านั้น เมนูที่ทำจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเพื่อให้เกิดความหลากหลาย ให้บริการในเวลา 2 ชั่วโมง/รอบ เที่ยวชมสถานที่สำคัญๆได้มากกว่า 40 แห่ง ได้ชมวิวไปด้วยรับประทานอาหารไปด้วย โดยมีการบรรยายให้ความรู้และมีนักแซกโซโฟนมาบรรเลงดนตรีสดๆอย่างใกล้ชิดที่จะมาร่วมสร้างบรรยากาศและประสบการณ์อันดีให้แก่ผู้เดินทางตลอดเส้นทาง

คุณชาม เล่าให้ฟังต่อว่า ในส่วนของอาหารที่เสิร์ฟนั้นในปัจจุบัน มีทั้งหมด 8 คอร์ส ด้วยกันเริ่มจาก Welcome Drink ที่จะเสิร์ฟเป็นน้ำสมุนไพรไทยต่างๆเน้นความชดชื่น ตามด้วย Appetizers 2 จาน ได้แก่ เมี่ยงคำกลีบบัวหลวง และสลัดโรลกุ้งแบบไทยๆ Soup 1 จาน ได้แก่ ต้มยำกุ้งสูตรเฉพาะของทางร้าน Main Courses 2 จาน ได้แก่ ทาโก้ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ และ สเต็กปลาแซลม่อนซอสฉู่ฉี่ เสิร์ฟพร้อมเส้นหมี่ที่ทานแล้วเข้ากันอย่างลงตัว ส่วน Dessert ได้แก่ ข้าวเหนียวมะม่วงคัดเกรด Tea & Coffee ชาและกาแฟร้อนๆ เป็นเครื่องดื่มปิดท้ายจบมื้ออาหารอย่างสมบูรณ์

สำหรับบางกอกบัสเตอรองท์ เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์)

ปัจจุบันเปิดให้บริการ 3 รอบต่อวัน

• เริ่มจาก Happy Lunch เวลา 11.30-13.30 น. ราคาสุทธิ 1,790 บาท

• Afternoon Snack & Tea เวลา 14.30-16.30 น. ราคาสุทธิ 1,590 บาท / เซ็ต / 2 ท่าน

• และรอบ Sunset Dinner เวลา 18.00-20.00 น. ราคาสุทธิ 1,790 บาท / ท่าน

โดยเส้นทางการเดินรถหลักๆ จะพานักท่องเที่ยวได้ชื่นชมกับบรรยากาศรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ซึ่งมีไฮไลต์เป็นพระบรมมหาราชวังและวัดพระแก้วซึ่งเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของไทย ชมวัดเวียงวังโดยรอบ ผ่านย่านเยาวราช วัดไตรมิตร คลองโอ่งอ่าง วัดภูเขาทอง เสาชิงช้า โลหะปราสาทที่สุดท้ายของโลก และที่อื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งเส้นทางการวิ่งรถหลักๆ ที่พาไปนั้น นักท่องเที่ยวไม่จำเป็นต้องลงจากรถเลย แค่นั่งชมทัศนยภาพภายในรถก็สามารถดื่มด่ำกับวัฒนธรรมไทยได้อย่างมีความสุข ส่วนในช่วงเทศกาลสำคัญๆ ทาง Bangkok Bustaurant ก็อาจจะมีจัดโปรแกรมพิเศษให้นักท่องเที่ยวได้ลงเที่ยวชมในแต่ละสถานที่ที่น่าสนใจ

สำหรับสถานที่ตั้งของร้านสำหรับ Check-in เริ่มการเดินทางได้ที่ เลาจน์รับรองพรีเมี่ยม Bangkok Bustaurant ที่ศูนย์การค้าโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ กรุงเทพ สีลม ( Holiday Inn Silom ) สีลมเทอเรส 981 ห้องเลขที่ 1-2 ถนนสีลม แขวงสีลม บางรัก กรุงเทพฯ สำรองที่นั่งล่วงหน้าอย่างน้อย 1-3 วัน และสอบถามโปรโมชั่นล่วงหน้าได้ผ่านช่องทาง Call Center 064-565-3992 หรือ Line Official : @bangkokbustaurant ในวันและเวลาทำการ ตั้งแต่ 10.00-19.00 น. (เว้นวันจันทร์)

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเทรนด์การท่องเที่ยววิถีใหม่ที่ Issara Life นำมาฝากผู้อ่านกัน สำหรับท่านผู้อ่านท่านไหนที่อยากจะเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแนวใหม่ เชื่อว่า Bangkok Bustaurant จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการทำเซอร์ไพร์สให้กับคนที่เรารักได้ดีไม่น้อยเลยละคะ

ขอขอบคุณภาพจาก Bangkok Bustaurant